ส่วนโหราศาสตร์ในภาคพยากรณ์นั้น
ก็มีตำหรับตำราออกมามากมายเรียนกันไม่หวาดไม่ไหวกันเลยที่เดียว
แต่ในส่วนของฤกษ์ที่ผมใช้นั้นก็คือมาจากหลักครูโหรไทยโบราณ
ผสมผสานกับหลักโหราศาสตร์แบบพระเวทย์หรือโหราภารตะซึ่งก็เป็นหลักครูของโหร
ไทยอีกที หลักเกณฑ์ของการหาฤกษ์แบบนี้ เรียกว่าชั้นครูเลยที่เดียว
หากใครศึกษาโหราศาสตร์ (ต้องเป็นวิชาโหราศาสตร์ระบบดวงดาวเท่านั้นนะครับ
ไม่ใช่วิชาหมอดูทำนายทั่วๆไป)
ก้ต้องเรียกว่าช่ำชองกันมานานนับสิบปีที่เดียวจึงจะให้ฤกษ์ยามใครต่อใครเอา
ไปใช้ได้ เพราะวิชาหาฤกษ์ยามนั้นจัดว่าเป็นสุดยอดของวิชาโหรแท้ๆ
เป็นวิชาโหราศาสตร์ขั้นสูงซึ่งศึกษาร่ำเรียนกันยากมากๆ
แต่เดี๋ยวนี้ผมเห็นหลายคนเพิ่งจะหัดเรียนโหรหรือเรียนหมอดู
เรียนไปมาสองสามเดือนก็ตั้งตนเป็นอาจารย์ดูดวงให้ฤกษ์กันแล้ว
ซึ่งก็น่าหวาดเสียวกันพอดู
วิชาฤกษ์นั้น เป็นหลักสำคัญในการแก้ไขดวงชาตาหลักหนึ่งซึ่งสำคัญมาก
เพราะด้วยฤกษ์ยามที่จะกระทำการมงคลหรือเริ่มกิจการอันใดอันหนึ่งนั้นให้
เจริญเติบโต
รุ่งเรืองไปได้ตลอดรอดฝั่งนั้นจำเป้นจะต้องใช้ดวงชาตาของเจ้าการ
(ที่ต้องทำการนั้น) ผสมผสานกับฤกษ์ที่อยู่บนฟ้าให้เหมาะสมลงตัว
โดยดวงฤกษ์ได้ไปทำการแก้ไขจุดเสียในดวงชาตาดวงเดิมของเจ้าการอีกทั้งได้ส่ง
เสริมให้คุณแก่ดวงเดิมของเจ้าการนั้นๆ
ให้ประกอบกิจการเจริญก้าวหน้าได้อย่างมั่นคง
ซึ่งถ้าหากดวงเดิมของเจ้าการไม่ดีหรือมีจุดเสียแล้ว
ดวงฤกษ์นี่แหละที่จะช่วยปัดเป่าอุปสรรคหรือช่วยแก้ไขปัญหาใดใดไปได้โดยง่าย
แต่หากดวงเดิมมีคุณหนุนนำแล้ว
การใดฤกษ์ยามที่ดีก็จะช่วยส่งเสริมให้ไปได้ดียิ่งๆขึ้น
วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555
หลักสำคัญวิชาฤกษ์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น