ฤกษ์บน-ฤกษ์ล่าง
อย่างที่กล่าวกันมาแล้วว่าฤกษ์ที่อยู่บนท้องฟ้าตามปฎิทินโหร
ที่บอกว่าวันนี้เป็นวันดี ฤกษ์ดีเหมาะแก่การมงคลต่างๆนั้น เรียกว่าฤกษ์บน
ซึ่งเป็นฤกษ์ทั่วไป แต่เราก็อาจะใช้ไม่ทุกคนเสมอไปนะครับ
เพราะหากสอบเข้ากับดวงชาตากำเนิดเราแล้วก็อาจจะเป็นฤกษ์ที่ไม่ดีก็ได้
ฉะนั้นการใช้ฤกษ์ที่เหมาะกับตัวเราจริงๆจะต้องสมดุลย์กันทั้งฤกษ์บนและ
ฤกษ์ล่าง(ของเราด้วย) อย่างที่บอกมาแต่แรกว่าฤกษ์ดีประเภทบูรณฤกษ์ เช่น
ทลิทโท มหัทธโน ภูมิปาโล เทวี ราชา สมโณ
แต่หากมาคำนวนดวงชาตาของเราไปร่วมด้วย ก็ต้องให้เป็นบูรณฤกษ์เช่นเดียวกัน
คือจะต้องตก ทลิทโท มหัทธโน ภูมิปาโล เทวี ราชา สมโณ
เช่นกัน แต่บางทีมันมักมิใช่อย่างนั้น ก้อาจจะตกฤกษ์ร้ายประเภท โจโร
เทศาตรี เพชฌฆาต ซึ่งนำผลร้ายมาให้
ส่วนการคำนวนสอบฤกษ์บน-ล่างให้ถูกต้องก็ต้องให้โหรเป็นผู้คำนวนจึงจะรู้ได้
หากได้สัมพันธ์กันทั้งฤกษ์ บน-ล่าง
ก็นับว่าเป็นฤกษ์ที่ดีสำหรับตัวเราโดยบริสุทธิจริงๆ
ก็จะบันดาลผลดีส่งอำนวยให้ หากฤกษ์บนดี
แต่ฤกษ์ล่างไม่ดีก็อาจจะเป็นฤกษ์ที่ให้ผลดี-ร้ายคลุกเคล้ากันไป
ผู้คนส่วนมากมักจะละเลยการใช้ฤกษ์ยามที่ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์
ส่วนมากก็ใช้ฤกษ์สะดวก ฤกษ์ที่คิดเอาเอง ว่าดี เช่น วันที่ 9 ดี 9โมงเช้าดี
วันศุกร์ดี วันที่เป็นวันสำคัญ เช่นวันสงกรานต์ วันวาเลนไทน์
วันขึ้นปีใหม่ วันขึ้น 15 ค่ำดี ตอนเช้าดี ฯลฯ
ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเป็นอย่างยิ่ง
วันและเวลาดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องใดใดกับฤกษ์
แต่บางวันก็นับว่าให้โทษรุนแรงมากในเรื่องฤกก์ยาม เช่นวันสงกรานต์
ซึ่งทุกคนคิดว่าดีเป็นมงคล
แต่ในคติทางโหราศาสตร์กลับเป็นวันที่พระอาทิตย์ย้ายราศียกเข้าราศีเมษ
และเป็นวันสุดท้ายของปีนักษัตร (ซึ่งบางปีจะตกประมาณวันที่ 13 หรือ 14 หรือ
15 )ซึ่งเป็นกฏห้ามฤกษ์อันดับหนึ่งของโหร ห้ามให้ฤกษ์ใดใดเป็นอันขาด
อีกอย่างที่เป็นสมัยนิยมเช่นการตดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์
ซึ่งคิดว่าเป็นวันแห่งความรัก จะช่วยให้ความรักยั่งยืน
แต่ในทางโหรนับว่าเป็นวันที่เสี่ยงเอาการ
เพราะหากปีใดวันนั้นเป็นวันดีนั่นก็พอไปได้ แต่หากปีใดตกวันไม่ดี
เรื่องร้ายๆระหว่างความรักย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่น่อน
จากปัจจุบันจะเห็นว่าเกิดสถิติการหย่าร้างสูง อุบัติเหตุทางรถยนต์ การตาย
การบาดเจ็บ ก้เพราะคนในปัจจุบันไม่เชื่อเรื่องฤกษ์ยาม
หรือใช้ฤกษ์ยามแบบผิดๆที่ไม่ถูกต้องตามหลักโหรราศาสตร์
ทำไมจึงกล่าวอย่างนั้น ก้เพราะเหตุที่ว่า หากเราไปออกรถ
หรือไปจดทะเบียนหรือลงทุนเข้าหุ้นส่วน
เริ่มต้นทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งโดยไม่ได้ดูฤกษ์ แต่เรากลับไปทำการนั้นๆ
แล้วเกิดปัญหาผิดพลาดขึ้นมา
ลองเอาวันเวลาที่เราทำการนั้นไปสอบทานฤกษ์กับโหรผู้รู้โหราศาสตร์คำนวนแล้ว
ท่านก็มักจะบอกเหตุร้ายต่างๆที่เกิดขึ้นกับเราจากเวลาที่เราไปทำการนั้น(โดย
ไม่ดูฤกษ์)ได้อย่างชัดเจน
ในทางกลับกันหากเราใช้ฤกษ์ยามเข้าช่วยแล้ว
อย่างน้อยผลร้ายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นก็ถูกดวงฤกษ์ทำลายลบล้างไปหมด
และกิจกรรมต่างๆที่กระทำไปก็สามารถที่จะหวังผลตามที่เราต้องการได้โดยการกำ
หนดฤกษที่สอดคล้องกับกิจการนั้นๆ
แต่หากปีนั้นดวงเราไม่เหมาะกับการกิจการใดใด
โหรผู้คำนวนดวงชาตาและฤกษ์ก็จะสามารถบอกล่าวตักเตือนเราให้รู้เสียก่อนว่า
ไม่ควรกระทำในช่วงเวลานั้นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลร้ายที่จะเกิดขึ้น
เช่นห้ามลงทุน ห้ามเข้าหุ้นส่วน ห้ามแต่งงาน ฯลฯ
ปกติการคำนวนดวงฤกษ์และดวงชาตาใน
สมัยก่อนค่อนข้างยุ่งยาก (เรียกว่าโหราศาสตร์ภาคคำนวน)
เพราไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ เดี๋ยวนี้ง่ายกว่าเดิมมาก
แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีหลักการมาประกอบมิฉะนั้นก็ไมาเข้าใจ(เรียกว่า
โหราศาสตร์ภาคพยากรณ์) ปัจจุบันนี้ผมใช้โช้โปรแกรมโหราศาสตร์ของอินเดียชื่อ
"จักรนารท โหราไลท์" มาช่วยในการคำนวน
โปรแกรมสามารถบอกรายละเอียดดวงชาตาและฤกษ์ยามบนท้องฟ้าตามหลักดาราศาสตร์ที่ถูกต้องขององค์การนาซา
การคำนวนกำลังของดาวเคราะห์หลายระบบ เช่น ษัฑพละ
การคำนวนทักษาเสวยอายุ เช่นระบบ วิมโษตรีทักษา ราศีทักษา นักษัตรทักษา ฯลฯ
การคำนวนโดยระบบอัษฐวรรค
การคำนวน จันทรการณ จากองศาดาวจันทร์
การคำนวน วรรคทั้ง 16 วรรค (โษทศวรรค) และการคำนวนในระบบโหราศาสตร์ภารตะที่ละเอียดซับซ้อนยิ่งนัก
การคำนวนพลังอิทธิพลของดวงอาทิตย์ที่มีต่อเจ้าชาตา
วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ฤกษ์บน-ฤกษ์ล่าง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น