วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ที่มาของฤกษ์

ที่มาของฤกษ์


คำว่าฤกษ์ส่วนมากจะสับสนกันมากว่าอันไหนเป็นฤกษ์สำหรับตัวเราและอันไหน เป็นฤกษ์สำหรับประกอบกิจกรรมที่เราต้องการจะเริ่มต้นใหม่เพื่อให้เกิดสวัด ิมงคล ตามหลักโหรพรามณ์(โหรภารตะ) และหลักโหราศาสตร์ไทยชั้นสูงส่วนมากก็มีหลักการคล้ายๆกัน แทบจะเรียกว่าเป็นระบบแบบแผนเดียวกัน ซึ่งฤกษ์ในที่นี้ก็คือการคำนวนตามหลักดาราศาสตร์โดยอ้างอิงการโคจรของพระ จันทร์ที่โคจรไปรอบจักรราศีทั้ง 12 ราศี ซึ่งก็มีประวัติสืบทอดยาวนานมากว่า 5000 ปีมาแล้ว ซึ่งในราศีทั้ง 12 ราศีนี้ก็จะมีกลุ่มดาวฤกษ์ (Fixed Star) ที่สถิตย์อยู่คงที่ เรียงรายล้อมจักรราศีชั้นนอกเป็นรัศมี 360 องศาตามจักราศี โดยโหราศาสตร์ระบบดั้งเดิมของอินเดีย ใช้ระบบ 28 นักษัตร (เหมือนของจีน) ต่อมาในยุคหลัง(ก็ประมาณพันกว่าปีมาแล้ว)โหราศาตร์อินเดียได้มีการปรับปรุง ลดลงให้คงไว้เพียง 27 กลุ่ม เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวนโดยระบบคณิตศาสตร์ระยะเชิงมุม(ตรีโกณมิติ) ซึ่งกลุ่มดาวฤกษ์ต่างๆ ก็ได้จัดเรียงและกำหนดชื่อไว้ดังนี้



๑. อัศวินี, อัสสนี (ดาวม้า ดาวคู่ม้า หรือ ดาวอัศวยุ ช) มี ๗ ดวง
๒. ภรณี (ดาวก้อนเส้า) มี ๓ ดวง
๓. กฤติกา, กฤตติกา, กัตติกา (ดาวธงสามเหลี่ยม หรือ ดาวลูกไก่) มี ๘ ดวง
๔. โรหิณี (ดาวพราหมีดาว ปลาตะเพียน หรือ ดาวคางหมู) มี ๗ ดวง
๕. มฤคศิร, มฤคเศียร, มิคสิระ (ดาวหัวเต่าดาวหัวเนื้อ ดาวศีรษะ เนื้อ ดาวศีรษะโค ดาวมฤคศิรัส หรือ ดาวอาครหายณี) มี ๓ ดวง
๖. อารทรา, อทระ (ดาวอัททา ดาวตัวโค หรือ ดาวตาสําเภา) มี ๑ ดวง
๗. ปุนัพสุ, ปุนัพพสู (ดาวหัวสําเภา ดาวสําเภาทอง ดาวสะเภา ดาวยามเกา หรือ ดาวตาเรือชัย) มี ๓ ดวง
๘. บุษยะ, บุษย์, ปุษยะ, ปุสสะ (ดาวปุยฝ้าย ดาวพวงดอกไม้ ดาวดอกบัว ดาวโลง ดาวปู ดาวสมอสําเภา หรือ ดาวสิธยะ) มี ๕ ดวง
๙. อาศเลษา, อสิเลสะ (ดาวเรือน หรือ ดาวนกอยู่ในปล่อง) มี ๕ ดวง
๑๐. มฆ, มฆา, มาฆะ (ดาวโคมูตร ดาววานร ดาวงอนไถ หรือ ดาวงูผู้) มี ๕ ดวง
๑๑. บุรพผลคุนี, ปุรพผลคุนี, ปุพพผลคุนี (ดาววัวตัวผู้ หรือ ดาว งูเมีย) มี ๒ ดวง
๑๒. อุตรผลคุนี, อุตตรผลคุนี (ดาวเพดาน หรือ ดาววัว ตัวเมีย) มี ๒ ดวง
๑๓. หัสต, หัสตะ, หัฏฐะ (ดาวศอกคู้ หรือ ดาวศีรษะช้าง) มี ๕ ดวง
๑๔. จิตระ, จิตรา (ดาวต่อมนํ้า ดาวไต้ไฟ ดาวตาจระเข้ หรือ ดาวเสือ) มี ๑ ดวง
๑๕. สวาดิ, สวาตี, สวัสติ (ดาวช้างพัง หรือ ดาวงูเหลือม) มี ๕ ดวง
๑๖. วิศาขา, วิสาขะ (ดาวคันฉัตร หรือ ดาวศีรษะกระบือ) มี ๕ ดวง
๑๗. อนุราธ, อนุราธะ, อนุราธา (ดาวประจําฉัตร หรือ ดาวนกยูง) มี ๔ ดวง
๑๘. เชฏฐะ, เชษฐา (ดาวงาช้าง ดาวช้างใหญ่ ดาวคอนาค หรือ ดาวแพะ) มี ๑๔ ดวง
๑๙. มูล, มูละ, มูลา (ดาวช้างน้อย หรือ ดาวแมว) มี ๙ ดวง
๒๐. ปุรพษาฒ, บุรพอาษาฒ,บุพพาสาฬหะ (ดาวสัปคับช้าง หรือ ดาว ราชสีห์ตัวผู้) มี ๓ ดวง
๒๑. อุตราษาฒ, อุตตรอาษาฒ, อุตตราสาฬหะ (ดาวแตรงอน หรือ ดาวราชสีห์ตัวเมีย) มี ๕ ดวง
๒๒. ศรวณะ, ศระวณ, สาวนะ (ดาวหลักชัย หรือ ดาวพระฤๅษี) มี ๓ ดวง
๒๓. ธนิษฐะ, ธนิษฐา (ดาวศรวิษฐา ดาวเศรษฐี หรือ ดาวไซ) มี ๔ ดวง
๒๔. ศตภิษัช, สตภิสชะ (ดาวพิมพ์ทอง หรือ ดาวยักษ์) มี ๔ ดวง
๒๕. บุรพภัทรบท, ปุพพภัททะ (ดาวโปฐบท ดาวแรดตัวผู้ หรือ ดาวหัวเนื้อทราย) มี ๒ ดวง
๒๖. อุตรภัทรบท, อุตตรภัทรบท, อุตตรภัททะ (ดาวแรดตัวเมีย หรือ ดาวไม้เท้า) มี ๒ดวง
๒๗. เรวดี (ดาวปลาตะเพียน หรือ ดาวนาง) มี ๑๖ ดวง. (ส.; ป. นกฺขตฺต). __________________

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น