วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ฤกษ์ดี-ชั่ว

 
ภาพ-การคำนวนดวงชาตาโดยใช้ระบบโหราศาสตร์ไทยโดยโปรแกรมของอ.พลังวัชร์
 
เมื่อรู้จักราศีและนวางศ์และขอบเขตของมันแล้วก็นำมาเรียงกันให้ครบ 360 องศาเป็นวงกลม
ทีนี้กลับมาที่

ฤกษ์ดี-ชั่ว  กันต่อ

เมื่อเรียงลำดับทั้ง 27 ฤกษ์ครบทั้งจักราศีแล้วเราก็มาดูว่าฤกษ์ที่มี 4บาท (มี4ขา) ขาไหนคาบเกี่ยวกับไปราศีข้างหน้าหรือฤกษ์ไหนมีขาไปเกี่ยวกับราศีหลัง และฤกษ์ไหนอยู่ในราศีครบทั้งสี่บาท(สี่ขา) ภาษาโหรเรียกว่าฤกษ์คาบเกี่ยวอดีตไปกี่บาท ไปอนาคตกี่บาท ที่นี้ก็มีชื่อเรียกดังนี้
ก.บูรณฤกษ์ คือฤกษ์ที่นวางค์ทั้งสี่ลูกอาศัยในราศีใดราศีหนึ่ง ไม่คร่อมสองราศี เรียกว่าฤกษ์ดี สมบูรณ์พร้อม บริสุทธิ์

ข. ฉินทฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่ลูกนวางค์ทั้งสี่อยู่คร่อม ทั้งสองราศีซึ่งมีคือ เอกตรีนิคือฤกษ์ที่นวางค์ลูกแรกอยู่ราศีหนึ่ง อีกสามลูกไปอยู่ในราศีถัดไป ตรีนิเอก กลับกันกับเอกตรีนิคือฤกษ์ที่นวางค์สาม ลูกแรกอยู่ราศีที่หนึ่ง แต่นวางค์ลูกสุดท้ายไปอยู่ราศีถัดไปเรียกว่าฤกษ์ชั่ว

ค. ภิณทฤกษ์หรือฤกษ์อกแตก ฤกษ์นี้นวางค์สี่ ลูกของฤกษ์แบ่งครึ่งอยู่คนละราศี เรียกว่าฤกษ์ชั่ว(มาก)
แล้วก็มาดูว่าฤกษ์ทั้ง 27 กลุ่มๆไหนตรงกับกฏเกณฑ์ 3ข้อที่ว่านี้ก็ ตัดสินได้ว่ากลุ่มฤกษ์ไหนดี-ชั่ว
เมื่อเราแบ่งฤกษ์ได้แล้ว รู้ว่าอันไหนดีชั่วแล้วก็มาดูชื่อที่เราใช้เรียกกันตามลำดับ ก็คือ ทลิทโท มหัธโณ ฯลฯ แล้วก็เรียงไปให้ครบ 9 ชื่อ 9ดาวฤกษ์ แล้วก็ซ้ำอีก 2 ครั้งตามกลุ่ม ที่แบ่งซึ่งทุกกลุ่ม(1กลุ่มมี 9 กลุ่มดาวฤกษ์) ก็จะมีฤกษ์ ทลิทโท มหัธโณ โจโร ฯลฯ เหมือนกัน

เมื่อได้ชื่อดาวฤกษ์ ราศี บาทฤกษ์ ชื่อฤกษ์ เราก็จะพบว่าฤกษ์ดีชั่วมีผลออกมาดังนี้
ฤกษ์ดี หรือ ฤกษ์บริสุทธิ์ (บูรณะฤกษ์) ได้แก่ ทลิทโท มหัทธโน ภูมิปาโล เทวี ราชา สมโณ
ฤกษ์ไม่ดี หรือ ฤกษ์แตก (ฉินทฤกษ์ ภิณทฤกษ์) ได้แก่ โจโร เทศาตรี เพชฌฆาต


นี่ เรียกว่าฤกษ์บน (ท้องฟ้า) สำหรับดูความเป็นพลังศุภมงคลจากฟากฟ้า ตามที่เรามักเห็นทั่วไปตามปฎิทินโหรนั่นแหละครับ ว่าวันนี้เป็นวันดี ฯลฯ ตามฤกษ์อะไรเป็นต้น --แต่--- ฤกษ์ยามที่เราจะใช้สำหรับประกอบกิจกรรมที่เป็นมงคลเฉพาะตัวของเรา ไม่ใช่ใช้ฤกษ์บนอย่างเดียวนะครับ เพราะต้องใช้ดวงชาตากำเนิดเรามาเทียบกับฤกษ์บนว่าสัมพันธ์กันหรือไม่ อันนี้เรียกว่า"ฤกษ์ล่าง" ซึ่งหลายๆคนมักไม่รู้ เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ....

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น