ว่ากันมายาวที่นี้ลองมาดูกฏเกณฑ์ของโหรว่าด้วยเรื่องฤกษ์กันบ้าง หลักใหญ่มีดังนี้
1.ห้ามวันที่พระเคราะห์ดับ หรือวันที่ดาวเคาระห์ทำมุม 0
องศากับดาวอาทิตย์ หากให้ฤกษ์ยามในวันแบบนี้เรียกว่าความวิบัติ
จะเกิดขึ้นไม่เกิน 1เดือนหลักจากเริ่มทำการ ซึ่งพึงสังวรระวังกันให้มากๆ
สำหรับนักโหราศาสตร์ทั้งหลาย
2.ห้ามวันพระเคาระห์เพ็ญ คือห้ามมีดาวดวงใดดวงหนึ่งในดวงฤกษ์ ทำมุม 180
องศากับดาวอาทิตย์
นัยว่าจะเกิดเหตุขัดแย้งกันรุนแรงถึงขั้นแตกหักกันเลยก็ว่าได้
ส่วนจะเกิดเรื่องอะไรนั้นก็ดูว่า ดาวดวงนั้นเป็นดาวอะไรอยู่ภพอะไร
มีความหมายว่าอย่างไร
3.ห้ามวันพระเคาระห์ใหญ่ทำมุม จตุโกณแก่กัน พระเคาระห์ใหญ่ๆก็เช่นว่า ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ อังคาร ราหู
4.ลัคนาในดวงฤกษ์จะต้องไม่เป็นทุสถานะแก่เจ้าการ เช่นว่าไม่เป็น 6 เป็น 8 เป็น 12 บางครั้งแม้แต่จันทร์ในดวงฤกษ์ก็ไม่ควร
5.อย่าให้มีดาวเคาระห์สถิตย์อยุ่ทุสถานะภพในดวงฤกษ์
ข้อนี้ก้อาจจะยากสักหน่อย
แต่อย่างไรก็ตามนักโหราศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญก็อาจจะปรุงดาวเคาระห์ให้อยู่ใน
กฏเกณฑ์ที่พอจะช่วยเหลือได้ เช่น เอาดาวบาปเคาระห์ไปอยู่ในเรือนอุปจัยแทน
เช่น เรือนที่ 3 เรือนที่ 6 เรื่อนที่ 10 และ 11
6.อย่าให้ลัคนาลอย จะต้องมีดาวกุมลัคนาในดวงฤกษ์ด้วยเพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง
7. การวางลัคนาควรให้เกาะนวางค์บาทที่เป็นราศีธาตุเดียวกัน
เช่นลัคนาราศีธาตุไฟเช่นราศี เมษ สิงห์ ธนู ให้วางที่นวางค์อาทิตย์
(นวางศ์ที่ 5)
8.ห้ามวางลัคนาเกาะบาท”ฉินทฤกษ์” ก็คือ นวางค์แรกของราศีธาตุน้ำคือ
ราศีกรกฏ พิจิก มีน และนวางค์สุดท้ายของราศีธาตุไฟ ซึ่งก็คือราศี เมษ สิงห์
ธนู อันนี้รวมความถึง “ภินทฤกษ์”ด้วย
ซึ่งเป็นนวางค์บาทฤกษ์ที่ไม่บริบูรณ์
มีอดีตและอนาคตของบาทฤกษ์เกาะไปข้ามเกี่ยวของขอบเขตของราศีถัดไป
นวางบาทฤกษ์เช่นนี้ไม่เป็นบูรณฤกษ์ หากไปทำการใดใดเข้า
ผลร้ายและวิบัติต่างๆจะตามมามากมาย
9.ปรับใช้ ธรรมเนียมเก่า เช่น ดิถีต่างๆ จักขุมายา และกาลโยคประจำปีด้วย
เนื่องจากโบราณที่ใช้มาแต่เดิม หากจะใช้แต่ขัดกับกาลโยคของชาวบ้าน
ก็มักจะมีเหตุให้คนครหาเอาได้
จริงแล้วกฏเกณฑ์มีมากกว่านี้นับสิบๆข้อ แต่ก็อธิบายพอเป็นสังเขปเท่านั้น
วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555
กฏเกณฑ์ของโหรว่าด้วยเรื่องฤกษ์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น