ทั้งหมดนี้เรียกว่ากลุ่มดาวฤกษ์ทั้ง27 กลุ่ม
ซึ่งเป็นหลักที่เราจะนำมาคำนวนพลังของกลุ่มดาวฤกษ์ว่ามีอิทธิพลดีร้ายต่อดวง
ชาตาอย่างไร ที่นี้ก็มาดูว่ากลุ่มดาวฤกษ์ที่มี 27
กลุ่มนั้นก็ได้ถูกแบ่งย่อยตามอิทธิพลของดวงดาวออกมาเป็น 3 กลุ่มใหญ่กลุ่มละ
9 ดาวฤกษ์แต่มี 9 ชนิดหรือลักษณะ(อิทธิพล)
ที่เราเรียกว่าฤกษ์จริงๆก็คือตรงนี้ โดยอิทธิพลของกลุ่มดาวฤกษ์ทั้ง 9
ชนิดนั้นก็มีชื่อเรียกและความหมายดังนี้
- ทลิทโทฤกษ์ แปลว่า ผู้ขอ ขอทาน คนมักน้อย คนใจดีมีเมตตา
- มหัทธโณฤกษ์ แปลว่า คนมีทรัพย์ เศรษฐี
- โจโรฤกษ์ แปลว่าโจร ขโมย การต้อสู้แย่งชิง
- ภูมิปาโลฤกษ์ แปลว่า ผู้รักษาแผ่นดิน
- เทศาตรีฤกษ์ แปลว่า สามแผ่นดิน คนต่างถิ่น หญิงแพศยา (เวสิโย)
- เทวีฤกษ์ แปลว่า นางพญา งามสง่า มีเสน่ห์ ราชินี
- เพชฌฆาตฤกษ์ แปลว่า ผู้ฆ่า เพชฌฆาต
- ราชาฤกษ์ แปลว่า พระราชา ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน
- สมโณฤกษ์ แปลว่า ผู้รักสงบ นักพรต นักบวช ฤาษี
ภาพ-โปรแกรมโหราศาสตร์ (ปุโรหิต)
ส่วน เทศาตรี แปลว่าหญิงแพศยาก็เหมาะสำหรับเปิดร้านค้า ขายอาหารของกินของใช้ โรงมหสพ ให้คนเข้าไปใช้บริการมากๆแบบไม่เลือกชั้นวรรรณะ ยากดีมีจน คนชั่วคนดี เข้าไปได้หมด เปรียบเหมือนหญิงแพศยาที่คบกับใครไม่เลือกหน้า อะไรประมาณนั้น
อย่าง ไรก็ตามทางโหรก็มีกฏเกณฑ์ที่พอจะบอกได้ว่า ฤกษ์ทั้ง 9 ชนิดนี้ ฤกษ์ไหนดีฤกษ์ไหนชั่วเป็นเบื้องต้นก่อน (คำว่า”ฤกษ์ชั่ว”เป็นภาษาโหรนะครับแปลว่าไม่ดี) โดยกลุ่มดาวฤกษ์ทั้ง 27 กลุ่มนี้ก็ได้ถูกจักรราศีทั้ง 12 ราศีครอบทับอีกที โดยจักรราศีมีลักษณะเป็นวงกลม มี 360 องศา และในจักรราศีก็มี 12 ราศี ๆละ 30องศา โดยมีหลักการคำนวน ดังนี้
12 ราศี = 360 องศา
1 ราศี = 30 องศา
1 องศา = 60 ลิปดา
1 ลิปดา = 60 ฟิลิปดา
ส่วน 27 กลุ่มดาวฤกษ์มีระยะหรือาณาเขตคาบเกี่ยวกันกับอาณาเขตของราศี มีหลักการคำนวนดังนี้
27 ฤกษ์ = 360 องศา
หรือ 1 ฤกษ์ = 360/27 = 40/3 องศา
= 40x60/3 ลิปดา = 800 ลิปดา
เพื่อเป็นการสะดวกในการคำนวนระหว่างตัว ร่วมของเขตของราศีกับขอบ เขตของ กลุ่มดาวฤกษ์ในจักราศี ก็เลยมีการค้นคิด นว-อัมศะ (แปลว่า 9 ส่วน) หรือเรียกว่า”นวางศ์”มาประกอบ โดยในจักราศีทั้ง 360 องศานี้แบ่งเป็น 108 นวางค์
ฉะนั้น 1 นวางค์ = 30/9 องศา = 30x60/9 ลิปดา = 200 ลิปดา
1 ราศี = 9 นวางค์
1 ฤกษ์ = 4 นวางค์
เมื่อเรารู้แล้วว่าใน1ราศีมี 30 องศา และมี 9 นวางศ์ เราเรียกชื่อตามลำดับว่า ปฐมนวางศ, ทุติยนวางศ, ตติยนวางศ, จตุตถนวางศ, ปัญจมนวางศ, ฉัฏฐมนวางศ, สัตตมนวางศ, อัฏฐมนวางศ และ นวมนวางศตามลำดับจริงๆก็แปลว่า นวางศลูกที่ 1,2,3-9
และก็มีการแบ่ง1ราศีออกเป็นสามส่วนละ 10 องศาเรียกว่าตรียางค์ โดยรวมเอาทุกๆ 3 นวางค์ เป็น 1 ตรียางค์ และได้มีการกำหนดชื่อเรียกแต่ละ ตรียางค์ภายในราศีว่า ปฐมตรียางค์, ทุติยตรียางค์, ตติยตรียางค์ตามลำดับ
ส่วนฤกษ์ทั้ง 27 ดาวฤกษ์ ก็แบ่งส่วนเป็น 1 ฤกษ์ ซึ่งมี 4 นวางค์ ได้มีการกำหนดชื่อเรียกแต่ละ นวางค์ภายในฤกษ์ ว่า ปฐมบาท, ทุติยบาท, ตติยบาท และ จตุตถบาท ตามลำดับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น