วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

ปีชง ปี2556 และวิธีแก้ชง ปรับดวงชง เสริมดวงชะตา

ปีชง 2556 และวิธีแก้ชง เสริมดวงชะตา

ปีชง ปี2556 และวิธีแก้ชง ปรับดวงชง เสริมดวงชะตา

ปีพ.ศ.2556 นี้เป็นปีมะเส็ง (งูเห่าน้ำ : กุ่ยจี๋)
          ภูมิปัญญาจีนโบราณ ได้เผยแพร่ความเชื่อเรื่องการไหว้ "ไท้ส่วยเอี๊ยเป๋าส่วยกุงเผ่งอัง" ในช่วงเริ่มต้นปีใหม่ (ตรุษจีน) ของทุกๆปี ซึ่งความเป็นจริงในปัจจุบันนี้คนเข้าใจเกี่ยวกับองค์ไท้ส่วยน้อยมากจนกล่าว ได้ว่าแทบไม่มีใครรู้ประวัติความเป็นมาของไท้ส่วยว่าเป็นใครมาจากไหน จนหลายคนรู้สึกหวาดผวาเมื่อได้ยินคำว่า “ชงไท้ส่วย”
          "ไท้ส่วย" เป็นอีกชื่อหนึ่งของดาวพฤหัสบดีในภาษาจีนโบราณ ซึ่งรวมความถึงเทพเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ทำหน้าที่คุ้มครองให้คุณให้โทษแก่ดวง ชะตาทุกดวงในผืนพิภพแห่งนี้ และในศาสตร์เรื่องของฮวงจุ้ย ไท้ส่วยก็มีอิทธิพลอีกไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งในการประกอบกิจการใดๆ ก็ตามไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมบ้าน ตกแต่งบ้าน สร้างบ้านคนจีนมักจะพึงซินแสในการหาฤกษ์ยามอันเหมาะสมและจะต้องหลีกเลี่ยงมิ ให้กระทบกับทิศทางที่สถิตของไท้ส่วยในปีนั้นๆ หากไม่แล้วก็จะต้องถูกลงโทษทัณฑ์ ต้องปะสบกับเคราะห์หามยามร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
          อย่างที่กล่าวมาแล้ว “ไท้ส่วย” ก็คือดาวพฤหัสบดี ซึ่งในทางโหราศาสตร์ถือว่าเป็นประธานแห่งดาวศุภเคราะห์ทั้งมวล เป็นดาวแห่งคุณธรรม ความดี โชคลาภ โภคทรัพย์ เป็นดาวแห่งคุรุผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งแสดงความรู้ความสามารถ เป็นดาวแห่งตุลาการ ความยุติธรรม และการแผ่ขยายอันไม่มีที่สิ้นสุด ในทางโหราศาสตร์ไทย ท่านว่าหากมีดาวบาปเคราะห์ใดที่ร้ายๆ เช่น ดาวอังคาร ดาวราหู หรือร้ายหนักๆอย่างดาวเสาร์ซึ่งเป็นดาวประธานแห่งบาปเคราะห์จะให้โทษแก่ ลัคนาแล้ว แต่ในดวงเดิมหรือดวงจรมีดาวพฤหัสบดีโคจรมาทำมุมที่ดีต่อลัคน์แล้ว ท่านว่า สามารถคุ้มครองและสลายภัยร้ายในดวงชะตาได้ แต่ในทางกลับกันหากในดวงชะตามีดาวพฤหัสบดีจรมาและให้โทษแล้วละก็ ดาวศุภเคราะห์ดวงไหนๆ จะกี่สิบดาวก็ไม่สามารถคุ้มภัยหรือปกป้องได้เลย
          คติความเชื่อของจีนเอง ความหมายของดาวพฤหัสบดีก็ไม่ต่างไปจากข้างต้น ฉะนั้นไท้ส่วยเองก็เช่นเดียวกันในสมัยโบราณระบบโหราศาสตร์ และดาราศาสตร์คือสิ่งที่แยกกันไม่ออก โชคเคราะห์ของบุคคลมีเทพเจ้าประจำดวงดาวเป็นผู้กำหนด ลัทธิเต๋าเป็นลัทธิหนึ่งเดียวที่ผสานความเชื่อทางเทววิทยา เทพและปีศาจ การบันดาลโชคและเคราะห์ ความดีความชั่ว ดำและขาว โหราศาสตร์และดาราศาสตร์เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน
          ไท้ส่วย ทั้ง 60 องค์คือการผสมผสาน และการตกผลึกทางภูมิปัญญาของจีนในสมัยโบราณ รวมถึงคติความเชื่อขนบธรรมเนียมประเพณี และค่านิยมกระทั่งปรัชญาการปกครองไว้อย่างยอดเยี่ยม โดยการคำนวณตามหลักของโป๊ยหยี่ซี้เถียวมาจากการคำนวณหาราศีบนเทียงถัง 10 ตัว มาผสมกับราศีล่าง (ตี่กี่) หรือ 12 นักษัตร ซึ่งไล่เรียงจับคู่กันได้ 60 คู่ เรียกว่า “หลักจับก๊ะจื้อ” นำมากำหนดเป็นรอบปีหมุนเวียนต่อเนื่องกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่ออธิบายการก่อกำเนิดและเชื่อมโยงของกันและกันของทุกสรรพสิ่งตามทฤษฎี แห่งเต๋า
          ปีทั้ง 60 ปีนี้แสดงให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ดีโดยการใช้บุคลาฐิษฐาน หรือการใช้บุคคลทั้ง 60 คนมาแทนจำนวนปีทั้ง 60 นั้นเรียกว่า “ไท้ส่วยเอี๊ย” ที่ มาที่ไปของแต่ละองค์รวมถึงประวัติความเป็นมา ได้มาจากบุคคลที่มีเกียรติศักดิ์และฐานันดรต่างกัน ต่างเวลาต่างสถานที่กัน แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ ต่างก็ได้เป็นผู้มีคุณูปการอันยิ่งใหญ่ และทำคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงให้แก่แผ่นดินมีความซื่อสัตย์สุจริต กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ได้รับการสดุษฎีกล่าวขวัญในเกียรติคุณความดีมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานนับ พันปี อีกทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับอนุชนรุ่นหลัง แม้ภายหลังเมื่อเสียชีวิตไปแล้วก็ยังได้รับการสถาปนาอวยยศให้เป็น “เซียน" หรือเทพเจ้าที่คุ้มครองบ้านเมืองในสมัยนั้น
          วีรบุรุษและขุนพลที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณทั้ง 60 ท่านนั้นจะได้รับการสถาปนาเป็นเทพเจ้าแห่งดาวพฤหัสบดีผู้ซึ่งคุ้มครองดวง ชะตา หรือ “ไท้ส่วยเอี๊ย” นั้น เมื่อใดไม่ปรากฏชัด แต่อารามในลัทธิเต๋าทุกอารามต่างก็มีรูปปั้นของท่านเหล่านั้นสถิตอยู่เนิ่น นานแล้ว มีการกราบไหว้บูชาขอพรกันสืบเนื่องมาเป็นประเพณีนับพันปี ซึ่งทุกท่านต่างก็ได้รับการสถาปนาเป็น “ไต่เจียงกุง” หรือ “จอมทัพ” ทำหน้าที่คุ้มครองดวงชะตาชาวประชาทั้งมวล
          ในรอบ 60 ปีนี้ จะมีเทพเจ้าไท้ส่วยประจำอยู่ในแต่ละปี ซึ่งจะมีชื่อเรียกขานต่างๆกัน ทำหน้าที่รักษาและคุ้มครองดวงปี หรือที่เรียกว่า “เฝ้าปี” อยู่ ซึ่งจะถือว่าแต่ละองค์จะมีอำนาจให้คุณดลบันดาลความสุข โชคเคราะห์ทุกข์ภัยหรือให้โทษแก่ผู้ใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับพระเมตตาของท่าน โดยเฉพาะท่านที่มีเคราะห์หรือดวงชะตาอ่อน ทำอะไรก็ติดขัดไม่ราบรื่นสมหวัง ท่านก็จะช่วยปัดเป่าเคราะห์ภัยบังเกิดแต่ความเป็นสิริมงคลมาสู่ตัวท่านและ ครอบครัว
องค์ไท้ส่วย ปี 2556 "ขุนพลฉื่อตัวไต่เจียงกุง"          สำหรับปีมะเส็ง พ.ศ.2556 นี้ องค์ไท้ส่วยที่ลงมาสถิตเฝ้าปีมีพระนามว่า “ขุนพลฉื่อตัวไต่เจียงกุง” เกิดในสมัยราชวงศ์ฮั่น (คศ.25-220) ณ เมืองส่านตี้ผิงลู่ (ปัจจุบันคือทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเสียนหยาง มณฑลซ่านซี) ศึกษาวิชาบู๊แต่ยังเล็ก  ท่านขุนพลฉื่อตัวเป็นผู้ที่มีจิตใจห้าวหาญและเด็ดเดี่ยว  มีความเชี่ยวชาญในการทำศึก เคยเป็นผู้นำทัพชนะการโจมตีฝ่ายพันเชา และพันเฉิง ตลอดจนโจมตีเมืองอู่ชุนจนแตกพ่าย และในที่สุดท่านก็เป็นผู้สร้างสันติภาพในเขตซีอิ้ว (ปัจจุบันคือมณฑลซินเกียง, ด่านอวี้เหมินกวน) ให้มีความสงบร่มเย็น
          เหตุที่ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนให้ความเคารพบูชากราบไหว้ เพราะมีความเชื่อว่าเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยจะบันดาลความสุขความทุกข์ให้เกิดแก่ ใครนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเมตตาของท่าน หากใครมีเกณฑ์ชะตาที่ดีอยู่แล้วจะได้ดียิ่งขึ้น หากใครมีดวงชะตาที่ไม่ดีทำอะไรก็มีปัญหาติดขัด ก็อธิฐานขอพรจากท่านให้ช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยให้ ดังนั้นในแต่ละปีจึงมีผู้คนไปกราบไหว้บูชาขอพร ให้อยู่เย็นเป็นสุขมีดวงชะตาที่ดีตลอดทั้งปี ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนจึงมีประเพณีในการไหว้ฝากดวงเพื่อสะเดาะเคราะห์ ต่อเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย โดยเฉพาะ “ท่านที่เกิดปีชงกับองค์ไท้ส่วย ปีทับไท้ส่วย ปีร่วมชงไท้ส่วย ปีเฮ้งไท้ส่วย ปีไห่ไท้ส่วย ปีผั่วไท้ส่วย” ซึ่งจากเกณฑ์ทั้ง 6 รูปแบบ ต่างก็มีอิทธิพลร้ายต่อดวงชะตาทั้งนั้น อย่างน้อยที่สุดก็อาจจะร่างกายไม่แข็งแรงเจ็บป่วยง่าย จิตใจไม่เป็นสุข งานการหยุดชะงัก การลงทุนเสียหาย ทะเลาะเบาะแว้งกับคนรอบข้างถึงกระทั้งอาจมีคดีความ ผิดหวังในความรัก หรืออาจจะหนักขึ้นถึงขั้นเลือดตกยางออก กระทั่งถึงแก่ชีวิต และปีเกิดที่ผู้เขียนได้เขียนว่าเข้าเกณฑ์ทั้ง 6 รูปแบบ ผู้เขียนได้เน้นเขียนให้เฉพาะหลักปีเกิด (เนื่องจากเป็นไท้ส่วยของบุคคลส่งผลกับดวงชะตามากที่สุด) ซึ่งหากจะให้ละเอียดจะต้องเอา วัน เดือน ปีเกิด และเวลาตกฟากมาคำนวณดวงชะตาตามแบบโหราศาสตร์จีน (โป๊ยหยี่ซี้เถียว) เพื่อจะได้คำนวณว่าในดวงชะตาของท่านในปีนี้จะเข้าเกณฑ์ในรูปแบบไหนเกี่ยวพัน กับเรื่องอะไร เพื่อจะได้ตั้งสติคอยระวังป้องกันตัวมิให้เรื่องร้ายต่างๆ เกิดขึ้นได้กับตัวท่านเองหรืออย่างน้อยที่สุดก็เป็นการผ่อนหนักเป็นเบา
โดยเมื่อท่านทราบว่าในปีนี้ดวงชะตาของท่านตกอยู่ในเกณฑ์ใดรูปแบบใดรูปแบบ หนึ่งใน 6 รูปแบบท่านสามารถเดินทางไปไหว้สะเดาะเคราะห์ฝากดวงชะตากับองค์ไท้ส่วยเอี๊ย ด้วยตนเองต่อเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยได้ที่ วัดจีนใกล้บ้านคุณที่มี “องค์ไท้ส่วยเอี๊ย” ประดิษฐานอยู่
 
          ท่านที่มีปีเกิดที่ชงกับปีนี้ และควรไปไหว้ “องค์ไท้ส่วย” คือ ท่านที่เกิดปี ดังต่อไปนี้ 
          1.ปีกุน(หมู)ชง(ปะทะ)โดยตรงกับเทพเจ้า “ไท้ส่วยเอี๊ย” และเป็นอริกับปีมะเส็งโดยตรง
          2.ปีมะเส็ง(งูเล็ก) ทับไท้ส่วย และยัง “คัก” กับปีมะเส็งเองด้วย
          3.ปีขาล(เสือ) ปีร่วมชงไท้ส่วย และยัง “ไห่(ให้ร้าย)” พร้อม “เฮ้ง(เบียดเบียน)” กับปีมะเส็งด้วย
          4.ปีวอก(ลิง) ปีร่วมชงไท้ส่วย และยัง “ผั่ว(แตกแยก)” พร้อม “เฮ้ง(เบียดเบียน)” กับปีมะเส็งด้วย
          และท่านที่ห้ามไปเป็นเจ้าภาพหรือเข้าร่วมพิธีทั้งงานมงคล(แต่งงาน) และอัปมงคล(งานศพ รวมถึงการเยี่ยมไข้คนป่วยด้วย) แต่ถ้าหากไม่สามารถเลี่ยงได้ก็ขอให้ละเว้นการไปดูศพเวลาฝังศพ(เผาศพ) หรือแม้แต่การส่งศพ และควรติดกิ่งทับทิมไปด้วย พร้อมทั้งเตรียมน้ำใส่กิ่งทับทิมไว้ด้วยสำหรับล้างหน้าก่อนที่จะเข้าบ้าน เมื่อกลับถึงบ้านหลังจากไปร่วมงานกลับมาแล้ว เพื่อป้องกันสิ่งอัปมงคลต่างๆ จะปะทะให้เจ็บป่วยได้คือ ท่านที่เกิดในปีนักษัตร ในรอบปีต่อไปนี้
          1.ปีกุน ท่านที่เกิด ปี2490(อายุ 66ปี) ปี2514(อายุ 42ปี) ปี2550(อายุ 6ปี)
          2.ปีมะเส็ง ท่านที่เกิด ปี2472(อายุ 84ปี) ปี2532(อายุ 24ปี)
          3.ปีขาล ท่านที่เกิด ปี2481(อายุ 75ปี) ปี2505(อายุ 51ปี) ปี2541(อายุ 15ปี)
          4.ปีวอก ท่านที่เกิด ปี2463(อายุ 93ปี) ปี2523(อายุ 33ปี)
          เพราะทั้ง 10 ปีนี้เป็น “ไท้ส่วยเฮี้ยบจี่จู้” แปลว่า “ไท้ส่วยตรงเจ้าพิธี” นอกจากจะนำพาสิ่งอัปมงคลทั้งหลายมาให้แล้ว ยังถือเป็น การหมิ่น และลบหลู่ต่อองค์ไท้ส่วยอีกด้วย
          วิธีบูชาเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย จุดธูป 9 ดอก ไหว้พระประธานในวัดก่อน (ปักธูปกระถางละ 3 ดอก) จากนั้นจึงไปไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย จุดธูป 3 ดอกวิงวอนขอพรท่าน ให้ท่านช่วยปกป้องคุ้มครองจากภยันอันตรายต่างๆ ที่ท่านอาจประสบพบเจอในปีนี้ จากหนักให้กลายเป็นเบา จากเบาก็ให้มลายสูญสิ้นไป
          เครื่องบูชาเทพเจ้าไท้ส่วย มีดังนี้ (ถ้าไปทำพิธีที่วัดจีนใกล้บ้านคุณที่มี “องค์ไท้ส่วยเอี๊ย” ประดิษฐานอยู่ ทางวัดมักมีจัดบริการไว้ให้แล้วเป็นชุด : ให้เข้าไปซื้อในวัดถึงจะเป็นของวัดแท้จริง)
          1. ธูป 3 ดอก ต่อ 1 ท่าน           2. เทียนแดง 1 คู่
          3. หงิ่งเตี๋ย 12 คู่                      4. ตั่วกิม 12 แผ่น (กระดาษทอง)
          5. ทุกหลั่งจี๊ 12 แผ่น                 6. เป๋าอุ่งจี๊ 12 แผ่น
          7. เผ่งอังจี๊ 12 แผ่น                   8. กระดาษแดง (อั่งเถียบ) 1 แผ่น
          9. ขนมจันอับ (จับกิ้มทึ้ง) 1 จาน
              อันประกอบด้วย....
               - ถั่วเคลือบน้ำตาลสีขาว - ถั่วเคลือบน้ำตาลสีชมพู - ฟักเชื่อม - ถั่วตัด - ข้าวพอง

          10. ส้ม 4 ผล 1 จาน
     1. นำกระดาษแดงที่เขียน ชื่อ-นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด (และเวลาตกฟาก) วางลงบนกระดาษไหว้ ใช้หนังสติ๊ก หรือเชือกแดงมัดไว้
     2. จัดส้ม 4 ผล และขนมจันอับใส่จานจัดวางต่อหน้าองค์เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย
     3. จุดเทียนแดงปักไว้ข้างๆ กระถาง จากนั้นจุดธูป 3 ดอก อธิษฐาน.....
          คำอธิษฐานขอพรไหว้เทพเจ้าไท้ส่วย
          วันนี้ตรงกับวันที่...เดือน.....พ.ศ. ... ข้าพเจ้าชื่อ....นามสกุล.....วันเดือนปีเกิด....ที่อยู่...
ขออัญเชิญเทพเจ้า “ขุนพลฉื่อตัวไต่เจียงกุง” โปรดเสด็จมารับเครื่องสักการบูชาทั้งหลาย เมื่อรับแล้วโปรดประทานพรให้ข้าพเจ้าและครอบครัวประสบแต่สรรพสิริมงคล มีความสุขความเจริญก้าวหน้าอุดมด้วยโชคลาภ ทำมาค้าขึ้น เงินทองไหลมาเทมา ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย สิ่งอัปมงคลทั้งหลายอย่าได้แผ้วพาน ขอให้สมความปรารถนาด้วยมงคลทั้งปวงเทอญ
     4. ถ้าเป็นของตนเองให้หยิบชุดสะเดาะเคราะห์ที่เตรียมไว้ตามข้อ 1 ปัดตั้งแต่ศรีษะลงมาจนสุดแขน 12 ครั้ง (หมายเหตุ ถ้าท่านไปไหว้แทนบุคคลอื่น ก็ไม้ต้องทำพิธีปัดตัว แต่ให้กระทำโดยปัดเสื้อของบุคคลนั้นแทน) ขณะปัดตัวให้กล่าวว่า “บังเกิดแต่สิ่งรุ่งเรืองก้าวหน้า สิ่งอัปมงคลให้ปัดเป่าหายไป”
     5. นำชุดสะเดาะเคราห์วางลงในกล่องรับฝากที่ทางวัดจัดไว้ให้ ก็เป็นอันเสร็จพิธี ของเซ่นไหว้ต่างๆ ถวายให้วัดไม่ต้องนำกลับบ้าน (ของไหว้ที่รับประทานได้ ไม่ต้องเก็บกลับบ้านให้วางไว้ที่วัดเพื่อความเป็นสิริมงคล)
หมายเหตุ ท่านสามารถไปทำพิธีได้ทุกวันที่ท่านสะดวก (ควรเป็นช่วงเวลาเช้าๆ ก่อนเที่ยง) และ
          -ผู้หญิงขณะมีประจำเดือนไม่ควรทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ให้งดเว้นไปก่อน
          -เจ้าชะตาปีมะเส็ง และเจ้าชะตาปีกุน ขณะนำชุดกระดาษไหว้มาปัดตัว ให้ผู้มีอาวุโสกว่าเราปัดให้จะดีกว่า
          ช่วงปีใหม่ และตรุษจีน ปี2556 ควรหาโอกาสไปไหว้เทพเจ้าต่างๆ ตามแต่ที่จะเสริมปีนักษัตรตนเอง (ส่วนคำพยากรณ์ดวงประจำปี 2556 ของแต่ละปีเกิดอย่างละเอียด กับทิศมงคล ทิศอัปมงคลประจำปี 2556 และวัตถุมงคลเสริมราศีปีเกิดประจำปี 2556 กำลังอยู่ในช่วงจัดทำ เมื่อแล้วเสร็จทางร้านจะนำมาพิมพ์เผยแพร่แล้วทำการแจ้งให้ท่านผู้อ่านทราบ ต่อไปช่วงปลายปี 2555 นะครับ)
          ในช่วงกลางปี 2555นี้ เนื่องจากท่านผู้อ่านที่ติดตามอ่านบทความของทางร้านมาตลอดทุกปี ได้ติดต่อเข้ามากับทางร้านให้เขียนบทความเกี่ยวกับปีชงของปี 2556 แต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะได้ทราบว่าตนเองมีเกณฑ์การชงหรือไม่ในปีถัดไป จะได้ตั้งหลักระวังตัวไว้ก่อน (คนที่ดวงดีในปีนี้ 2555 จะได้ไม่ประมาทชะล่าใจเตรียมตัวเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าเพื่อจะได้ ป้องกันเหตุอันไม่พึงปรารถนาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ไม่ให้เกิดขึ้น หรือถ้าเกิดขึ้นก็จะได้ไม่เสียหายมากนัก)
          1.ปีกุน(หมู) (ชง : ปะทะ) โดยตรงกับเทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา “ไท้ส่วยเอี๊ย” และเป็นอริกับปีมะเส็งโดยตรง เกณฑ์นี้เป็นเกณฑ์ร้ายที่สุดในบรรดา “ฆาตดวงชะตา” ทั้ง หลาย เป็นเกณฑ์ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงครั้งใหญ่ในชีวิต ทั้งด้านหน้าที่การงาน ธุรกิจ การงาน การลงทุน สุขภาพ ความรัก คู่ครอง ทั้งหมดต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะหากใครตกเกณฑ์นี้ จะมีแนวโน้มที่จะผิดหวัง เสียหาย ถูกทำลาย หรือวิบัติสูญสิ้น โดยในปีนี้ให้ระวังเรื่องอุบุติเหตุเป็นพิเศษ
          ควรไปไหว้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ฝากดวงชะตาต่อ “องค์ไท้ส่วยเอี๊ย” และถ้าเป็นไปได้หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วให้ไปทำบุญไหว้พระ 9 วัด พร้อมทั้งถือปฏิบัติตนในปีชงตลอดทั้งปี (มีคำแนะนำด้านท้ายบทความ)
          และเพื่อเป็นการเสริมดวงชะตาของคุณเพื่อเตรียมตัวรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในปี 2556 ควรหาบูชาเครื่องรางปีนักษัตรที่เสริมดวงคนเกิดปีกุนเฉพาะเรื่อง ดังนี้
เสือสีส้ม เสือสีเหลือง - ปีขาล (เสือ) คบแล้วพากันให้ร่ำรวย หรือมีบุตรเกิดปีนี้จะทำให้พ่อแม่รวย
ปีเถาะ no.28-112-008 กระต่ายเสื้อฟ้าถือฮก กระต่ายเสื้อส้มถือฮก - ปีเถาะ (กระต่าย) เสริมดวงเรื่องการเงิน
ปีมะแม-SX878 - ปีมะแม (แพะ) เสริมดวงเรื่องความคิด

          2.ปีมะเส็ง(งูเล็ก) ทับไท้ส่วย หากผู้ใดตกเกณฑ์นี้จะทำให้ปีนี้ทั้งปีมีแต่เรื่องปวดหัว แต่ยังมีความสุขหรือมีโชคเข้ามาบ้างสลับกันไป ทำให้บางครั้งดูเหมือนว่าโชคดีแต่ลาภผลทั้งหลายจะถูกบั่นทอนลงไปครึ่งหนึ่ง หรือไม่ก็ถูกผู้อื่นแย่งชิงไปจากเรา หากเจ้าชะตามีการแข่งขันช่วงชิงผลประโยชน์ในปีนี้ก็น่าจะต้องเตรียมตัว เตรียมใจแต่เนิ่นๆ อย่าได้ชะล่าใจ หรือมั่นใจตัวเองมากเกินไป สิ่งที่เราคาดหวังไว้มีโอกาสหลุดมือไปโดยง่าย
          ควรไปไหว้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ฝากดวงชะตาต่อ “องค์ไท้ส่วยเอี๊ย” และถ้าเป็นไปได้หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วให้ไปทำบุญไหว้พระ 9 วัด พร้อมทั้งถือปฏิบัติตนในปีชงตลอดทั้งปี (มีคำแนะนำด้านท้ายบทความ)
          และเพื่อเป็นการเสริมดวงชะตาของคุณเพื่อเตรียมตัวรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในปี 2556 ควรหาบูชาเครื่องรางปีนักษัตรที่เสริมดวงคนเกิดปีมะเส็งเฉพาะเรื่อง ดังนี้
- ปีฉลู (วัว) เสริมดวงเรื่องการเงิน
ปีระกา no.28-112 -006 - ปีระกา (ไก่) เสริมดวงเรื่องความสุข
ปีวอก no.28-112-007 - ปีวอก (ลิง) เสริมดวงเรื่องความคิด

          3.ปีขาล(เสือ) ปีร่วมชงไท้ส่วย และยังทั้ง “ไห่(ให้ร้าย)” ทั้ง “เฮ้ง(เบียดเบียน)” กับปีมะเส็งด้วย เกณฑ์นี้เป็นเกณฑ์เรื่องคดีความ เจ้าชะตามักมีอุปสรรคในการดำเนินชีวิตมากมาย ได้รับการประทุษร้าย เห็นผิดเป็นชอบ บางสิ่งที่ทำแล้วคิดว่าดีแต่กลับเป็นผลร้าย ในปีนี้ทั้งปีห้ามเป็นนายประกันให้ใคร หรือห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับการค้ำประกันใดๆ หมั่นระวังเรื่องเอกสารสัญญาต่างๆ ให้ระเอียดรอบคอบเพราะข้อมูลเอกสารที่สำคัญๆ ของเจ้าชะตาจะมีการหมกเม็ดปลอมแปลงแก้ไขแต่งเติมโดยที่เจ้าชะตาขาดไม่ถึง นอกจากควรรอบคอบเรื่องกฎหมายคดีความแล้ว การเข้าใจผิดระหว่างพี่น้องเพื่อนฝูงก็มีโอกาสกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตต้อง ระวังให้มากด้วยเช่นกัน และให้ระวังเรื่องถูกคนใส่ร้าย หรือถูกแย่งชิงผลงานด้วย
          ควรไปไหว้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ฝากดวงชะตาต่อ “องค์ไท้ส่วยเอี๊ย” และถ้าเป็นไปได้หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วให้ไปทำบุญไหว้พระ 9 วัด พร้อมทั้งถือปฏิบัติตนในปีชงตลอดทั้งปี (มีคำแนะนำด้านท้ายบทความ)
          และเพื่อเป็นการเสริมดวงชะตาของคุณเพื่อเตรียมตัวรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในปี 2556 ควรหาบูชาเครื่องรางปีนักษัตรที่เสริมดวงคนเกิดปีขาลเฉพาะเรื่อง ดังนี้
- ปีมะเมีย (ม้า) เสริมดวงเรื่องการเงิน
ปีจอ-SX878 ปีจอ no.28-112-002 - ปีจอ (สุนัข) เสริมดวงเรื่องความคิด
หมูป่าเล็กสายทอง หมูป่าห้อยโทรศัพท์ หมูจิ๋วตั้งโต๊ะ - ปีกุน (หมู) เสริมดวงเรื่องความร่ำรวย

          4.ปีวอก(ลิง) ปีร่วมชงไท้ส่วย และยังทั้ง “ผั่ว(แตกแยก)” ทั้ง “เฮ้ง(เบียดเบียน)” กับปีมะเส็งด้วย เกณฑ์นี้ต้องระวังเรื่อง พ่อแม่ อาชีพการงานไม่มั่นคงเปลี่ยนแปลงบ่อย ความเหงาเดียวดาย หากมีคู่หรือมีความรักในช่วงปีนี้จะไม่ค่อยสดชื่นสมหวัง และให้ระวังเรื่องคดีความ เจ้าชะตามักมีอุปสรรคในการดำเนินชีวิตมากมาย ได้รับการประทุษร้าย เห็นผิดเป็นชอบ บางสิ่งที่ทำแล้วคิดว่าดีแต่กลับเป็นผลร้าย ในปีนี้ทั้งปีห้ามเป็นนายประกันให้ใคร หรือห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับการค้ำประกันใดๆ หมั่นระวังเรื่องเอกสารสัญญาต่างๆ ให้ระเอียดรอบคอบเพราะข้อมูลเอกสารที่สำคัญๆ ของเจ้าชะตาจะมีการหมกเม็ดปลอมแปลงแก้ไขแต่งเติมโดยที่เจ้าชะตาขาดไม่ถึง นอกจากควรรอบคอบเรื่องกฎหมายคดีความแล้ว การเข้าใจผิดระหว่างพี่น้องเพื่อนฝูงก็มีโอกาสกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตต้อง ระวังให้มากด้วยเช่นกัน แต่ในความโชคร้ายในปีนี้คนปีวอกยังมีความโชคดีอยู่ด้วย เนื่องจากเป็นปีนักษัตรที่สมพงศ์กับปีมะเส็งกล่าวคือ จะเป็นปีที่ต้นร้ายแต่ปลายดี
          ควรไปไหว้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ฝากดวงชะตาต่อ “องค์ไท้ส่วยเอี๊ย” เพื่อ ลดร้ายพร้อมกับเสริมความโชคดีไปพร้อมกันด้วย และถ้าเป็นไปได้หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วให้ไปทำบุญไหว้พระ 9 วัด พร้อมทั้งถือปฏิบัติตนในปีชงตลอดทั้งปี (มีคำแนะนำด้านท้ายบทความ)
          และเพื่อเป็นการเสริมดวงชะตาของคุณเพื่อเตรียมตัวรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในปี 2555 ควรหาบูชาเครื่องรางปีนักษัตรที่เสริมดวงคนเกิดปีวอกเฉพาะเรื่อง ดังนี้
ปีชวด no.28-112-003 - ปีชวด (หนู) เสริมดวงเรื่องการงาน
มะโรงสีแดง มะโรงสีเหลือง - ปีมะโรง (มังกร) เสริมดวงเรื่องการเงิน
- ปีมะเส็ง (งูเล็ก) เสริมดวงเรื่องความคิด

          ส่วนผู้ที่มีแนวโน้มที่ดวงชะตาชีวิตจะสดใสขึ้นในปี 2556 นี้คือผู้ที่เกิด ปีเถาะ ปีฉลู ดังนั้นเพื่อเป็นการเสริมส่งให้ดวงชะตาของท่านพุ่งสุดขีดไม่ถูกบั่นทอนลง และท่านที่มีเกณฑ์ชงทั้ง 4 ปีที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น  (หลังจากที่ท่านไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์ฝากดวงที่วัดจีนเรียบร้อยแล้ว) ให้ท่านทำบุญดังนี้ (ถ้าเป็นได้ให้ทำทั้งปี 2555 และปี 2556 ตลอดทั้งปี)
1. ปล่อยนกปล่อยปลาเท่าอายุ
2. ทำบุญสังฆทานทุก 2 เดือน
3. ถือศีล กินเจ ทุกเดือน (เดือนละกี่วันก็ได้ตามสะดวก)
4. ทำบุญซื้อโลงศพ
5. นั่งสมาธิหมั่นทำบุญตักบาตร
6. ไหว้พระ 9 วัด
7. ร่วมทำบุญซื้อวัวควาย
ไหว้พระ 9 วัด เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล (ถ้าเป็นไปได้ให้ไปช่วงปีใหม่ หรือตรุษจีนหลังจากไปทำพิธีที่วัดจีนเสร็จแล้ว)
ศาลหลักเมืองกรุงเทพ1. ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร (เวลาเปิด-ปิด 05.30 - 19.30 น.)
ไปสักการะ "เทพารักษ์ทั้ง 5" คือ พระเสื้อเมือง, พระทรงเมือง, พระกาฬไชยศรี, เจ้าพ่อเจตคุปต์, เจ้าพ่อหอกลอง เพื่อ "ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี" ไหว้ เสาหลักเมืององค์จำลอง ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ผ้าแพร 3 สี ดอกบัว และไหว้องค์จริงด้วยพวงมาลัย
สถานที่ตั้ง อยู่บริเวณหัวมุมสวนหลวง ข้างพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 39, 43, 44, 47, 53, 64, 80, 82, 91,201, 203 รถปรับอากาศ สาย 503,508, 512
วัดพระแก้ว2. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (เวลาเปิด-ปิด 08.30 - 16.00 น.)
ไหว้พระแก้วมรกต พระพุทธรูปสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เป็นศูนย์กลางความศรัทธาไทย - ลาว เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระแก้วมรกต แก้วแหวน เงินทองไหลมาเทมาตลอดปี" ด้วยธูป เทียน ดอกบัวคู่
สถานที่ตั้ง อยู่ในพระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 39, 43, 44, 53, 59, 64, 80, 82,91,201, 203 รถปรับอากาศ สาย 501, 503, 508, 512
วัดโพธิ์3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
นมัสการพระพุทธไสยาสน์อันศักดิ์สิทธิ์ (ที่ฝ่าพระบาททั้งสองข้างประดับมุก ลวดลายภาพมงคล 108 ประการ) เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระนอนวัดโพธิ์ ร่มเย็นเป็นสุข อยู่ดีกินดีตลอดปี" ด้วยธูป 9 ดอก เทียนแดงคู่ ทองคำเปลว 11 แผ่น
สถานที่ตั้ง หลังพระบรมมหาราชวัง ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 6, 9, 12, 25, 43, 44, 47, 53, 60, 82, 91, 123,รถปรับอากาศ สาย 501, 508
ศาลเจ้าพ่อเสือ4. ศาลเจ้าพ่อเสือ (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
ไปสักการะ เจ้าพ่อเสือ เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิม ฯลฯ เพื่อเสริม "อำนาจบารมี" ด้วยธูป 18 ดอก ปัก 6 กระถาง เทียนแดง 1 คู่ พวงมาลัย 1 พวง "ศาลเจ้าเก่าแก่ของลัทธิเต๋า" หนึ่งในสามมหาสถานของพระนครที่ชาวจีนต้องสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล "เสริมอำนาจบารมี"
สถานที่ตั้ง ถนนตะนาว แขวงเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 10, 12, 19, 35, 42, 56, 96
วัดสุทัศน์5. วัดสุทัศน์เทพวราราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
ไหว้พระองค์ประธาน (พระศรีศากยมุณี) ที่เก่าแก่ ซึ่งอดีตเคยประดิษฐานอยู่ที่วิหารหลวงวัดมหาธาตุของกรุงสุโขทัย เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระวัดสุทัศนฯ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป" ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม ดอกบัวหรือพวงมาลัย
สถานที่ตั้ง บริเวณเสาชิงช้า ตรงข้ามศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 10, 12
วัดชนะสงคราม6. วัดชนะสงคราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
ต้องไปสักการะ "พระประธาน" ในพระอุโบสถ และ "สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (บุญมา)" ผู้นับถือความซื่อสัตย์ ด้วย ธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก มีความเชื่อว่า "จะมีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง" "ไหว้พระวัดชนะสงคราม อุปสรรคร้ายพ่ายแพ้"
สถานที่ตั้ง ถนนจักรพงษ์ แขวงบางลำพู เขตพระนคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 3, 6, 9, 15, 30, 32, 33, 43, 53, 64, 65, 82, 123 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 6, 509
วัดระฆัง7. วัดระฆังโฆษิตาราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
สักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และพระประธานที่วัดระฆัง อ่านคาถาชินบัญชร เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระวัดระฆัง มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี" ด้วยธูป 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว 3 แผ่น หมากพลู
สถานที่ตั้ง ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 19, 57, 83 ท่าเรือ เรือด่วนเจ้าพระยา ลงท่ารถไฟหรือท่าวังหลังก็ได้ หรือลงเรือข้ามฟากจากท่าช้างไปท่าวัดระฆัง
วัดอรุณฯ8. วัดอรุณราชวราราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
ไหว้พระปรางค์วัดอรุณฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระวัดอรุณ ชีวิตโรจน์รุ่ง ทุกวันคืน" ต้องไปสักการะ "พระประธาน" ด้วยธูป 3 ดอก เทียนคู่ และต้องไปเดินทักษิณาวัตรรอบ "พระปรางค์" อีก 3 รอบ เพื่อ "ชีวิตรุ่งโรจน์"
สถานที่ตั้ง ข้างกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทางสาย 19, 57, 83 ทางเรือ ลงเรือข้ามฟากที่ท่าเตียนขึ้นที่ท่าวัดอรุณ
วัดกัลยานมิตร9. วัดกัลยาณมิตร (เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)
ไหว้หลวงพ่อซำปอกง (พระพุทธไตรรัตนนายก) พระโตริมน้ำตามตำนาน กรุงศรีอยุธยา ณ วัดกัลยาณมิตร เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้หลวงพ่อซำปอกง โชคดีมีชัยปลอดภัยตลอดปี" ด้วยธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่
สถานที่ตั้ง แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี
การเดินทาง โดยรถประจำทาง สาย 3, 4, 7, 7ก, 9, 21, 37, 56, 82 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 7, 21, 82 (นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างจากโรงเรียนศึกษานารี เข้ามาที่วัดเพราะรถ ประจำทางเข้าไม่ถึง) ทางเรือ ลงเรือข้ามฟากที่ท่าปากคลองตลาดขึ้นท่าวัดกัลยาณมิตร เพื่อความสะดวกควรเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง หรือบริการขนส่งสาธารณะ เนื่องจากสถานที่จอดรถมีจำกัดมาก
บางคนเคร่งครัดจัดถึงขนาดที่จะต้องไปสักการะให้ครบทั้ง 9 แห่งในวันเดียว !!!
การ ได้ไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนั้นไม่จำเป็นต้องไปในวันพิเศษ ทางศาสนาเท่านั้น หากสามารถไปนมัสการได้ทุกเมื่อ ซึ่งการไปนมัสการนี้ ไม่เพียงจะก่อให้เกิดความสบายใจเท่านั้น หากยังเป็นกุศโลบายที่สร้างความเชื่อมั่นในการพาชีวิตก้าวเดินต่อไปในอนาคต ด้วยสัญญาใจที่ให้ไว้กับตัวเอง และถ้าไม่มุ่งมั่นในการโกย "มงคล" เกินไป เวลานั้นน่าจะเป็นเวลาทองที่ได้ซึมซับความสงบสุข ความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ได้อีกด้วย


 บทความจาก
 http://www.turtlebiz.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539319195&Ntype=1

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น